ทำความรู้จักกับฮาร์ดดิสก์ WD รุ่นใหม่ ใช้ฮีเลียมแทนอากาศ (Helioseal)

วันก่อนผมมีโอกาสได้เห็น WD Purple 8TB ตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Helioseal หรือใช้ฮีเลียมบรรจุแทนอากาศ (แอบไปเจอที่ออฟฟิศของ QNAP Thailand) พอถ่ายรูปไปอวดทาง PR ของ WD Thailand ไม่กี่วันถัดมาเขาก็เลยส่ง WD Red 8TB มาให้ลองซะสองลูกกันเลยทีเดียวล่ะครับ ผมก็เลยอยากขอถือโอกาสเขียนถึงเจ้าฮาร์ดดิสก์ตัวนี้หน่อยว่า แบบใหม่มันดีกว่าแบบเก่ายังไง และมันแตกต่างกันตรงไหนบ้าง
อย่างแรกเลย หน้าตาเปลี่ยนไปครับ หน้าตาฮาร์ดดิสก์ดูราบเรียบมากขึ้น จนผมนึกว่าเป็นกล่องกระดาษกันเลยทีเดียว (ฮา) ลองเทียบดูระหว่าง WD Red 5TB แบบเดิม กับ WD Red 8TB แบบใหม่ (Helioseal) ดูได้ครับ แบบเดิมมันจะดูเป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มากกว่าเนอะ แต่แบบใหม่ก็ดูเป็นมิตรกับคนที่ไม่ใช่สายเทคนิคดีเหมือนกันนะ
รูขันน็อตก็เปลี่ยนแปลงไปนะ เปลี่ยนไปนิดหน่อย จากรูปด้านล่างนี่ อันบนเป็นของฮาร์ดดิสก์แบบเดิม อันล่างเป็นของฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ ผมว่าตำแหน่งมันดีขึ้น คือ ยึดกันคนละมุมมากขึ้น ทำให้ดูมั่นคงขึ้น … แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่ได้อำนวยความสะดวกหรือทำให้ยุ่งยากในการใส่มันเข้า NAS แต่อย่างใดหรอกนะ
แล้วแบบนี้ WD Red และ WD Purple ที่ใช้เทคโนโลยี Helioseal มันดีกว่าเดิมตรงไหนล่ะ? คำตอบก็คือ การใส่ฮีเลียมนั่นแหละ ที่ทำให้มันดีกว่าเดิมครับ เทคโนโลยีที่ WD ใช้นี้มาจากบริษัท HGST ที่ไปเข้าซื้อกิจการมาในปี ค.ศ.2012 นั่นแหละ … มาดูข้อดีของการใส่ฮีเลียมในฮาร์ดดิสก์แทนที่จะเป็นอากาศ (ออกซิเจน + ไนโตรเจน) แบบเดิมครับ
ข้อแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ มันช่วยลดการสั่นของจานฮาร์ดดิสก์ ทำให้สามารถออกแบบให้จานแต่ละจานอยู่ใกล้กันได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ใส่จานฮาร์ดดิสก์ได้มากกว่าเดิม ฉะนั้นด้วยพื้นที่เท่าเดิม แต่เดิมเคยใส่ได้ 5 จาน ก็กลายเป็นใส่ได้ 7 จานครับ ผลที่ตามมาก็คือ ความจุของฮาร์ดดิสก์มากขึ้น ฉะนั้นเราจึงได้เห็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 10TB ครับ (WD เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 10TB เมื่อประมาณปลายปีก่อน)
ข้อสองคือ มอเตอร์สำหรับหมุนจานฮาร์ดดิสก์ไม่ต้องใช้พลังงานมากเท่าเดิม ซึ่งส่งผลให้เกิดความร้อนน้อยกว่าเดิม และประหยัดไฟมากกว่าเดิมด้วย โดยข้อมูลจาก HGST นั้น เทคโนโลยี Helioseal นี้จะส่งผลให้ความร้อนในการทำงานของฮาร์ดดิสก์ลดลง 4 องศาเซลเซียส และกินพลังงานน้อยลง 49% (วัตต์ต่อเทระไบต์) เลยทีเดียว
ความร้อนที่น้อยลงนี้ช่วยให้อายุการใช้งานของฮาร์ดดิสก์ยืนยาวมากขึ้นแน่ๆ ซึ่งดีต่อระบบทั้ง NAS (Network-attached storage) และระบบกล้องวงจรปิด NVR (Network Video Recorder) เพราะความน่าเชื่อถือของข้อมูลก็จะสูงขึ้น และในขณะเดียวกัน งานจำพวก NAS และ NVR ที่มีการทำงานของฮาร์ดดิสก์ตลอดเวลา มันก็จะช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้นด้วย
เราต้องทำความรู้จักกันไว้ล่ะครับ เพราะอีกหน่อย ฮาร์ดดิสก์ก็คงจะเป็นแบบนี้กันหมด เพราะความต้องการเนื้อที่เก็บข้อมูลมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากขนาดของข้อมูลมันเยอะขึ้นนั่นเองแหละ